ยุคนี้ ถ้ามีอินเตอร์เน็ต คงไม่มีใครไม่รู้จัก facebook ชุมชนออนไลน์ยอดฮิตเชื้อสายต่างชาติแต่ดังในไทยมาก จากจุดเริ่มต้นแค่การเปิดเผยตัวตนบนโลกออนไลน์ ต่อมามีการขยับขยายอาศัย facebook เป็นช่องทางในการทำธุรกิจเล็กๆ ขายสินค้าในโลกออนไลน์ เพราะนอกจากจะเป็นชุมชนใหญ่แล้วยังเปิดร้านได้ฟรี แต่เมื่อมันฟรี ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย ทั้งคนซื้อ คนขาย facebook จึงกลายเป็นตลาดกลางของพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมาที่เข้ามาขายกัน เมื่อคนขายก็เยอะ ลูกค้าก็กลุ่มเดียวกัน ทำอย่างไรร้านค้าของคุณจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ก่อนใคร และทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า นั่นจึงเป็นที่มาของ Facebook ads
คำว่า ads เป็นคำย่อของ advertise ซึ่งหมายถึง โฆษณา ความหมายของ Facebook ads จึงเป็น การโฆษณา(ในสังคม) ของ Facebook กล่าวคือ การทำโฆษณาในสื่อ facebook นั่นเอง
Facebook ads นั้นจะมีรูปแบบการโฆษณา (Advertising Objectives) หลายแบบครอบคลุมตั้งแต่ การโฆษณาไปยังเว็บไซต์ โปรโมทโพสต์ โปรโมทเพจ เพิ่มจำนวนการติดตั้งแอพ เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานกิจกรรม เพิ่มจำนวนผู้เข้ามารับสิทธิ์ข้อเสนอ และเพิ่มจำนวนการรับชมวิดีโอ สำหรับร้านค้าทั่วๆ ไปในเฟซบุ๊คมักอาศัยการขายสินค้าโดยการเปิดแฟนเพจเป็น ร้านค้า งานโฆษณาหลักๆ จึงอยู่ที่การโปรโมทเพจและโปรโมทโพสต์
โฆษณา Facebook นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเรื่องต้องทำความเข้าใจอยู่ไม่น้อย โดยผลสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกสั้นๆว่า EDTA ได้เปิดเผยว่า กิจกรรมที่คนไทยใช้มากที่สุดบนโลกอินเทอร์เน็ตคือการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยคิดเป็น 96.1% และ Facebook เป็นหนึ่งในสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่มีคนใช้สูงถึง 94.8% ของคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด
ด้วยเทรนด์การใช้สื่อสังคมออนไลน์มาแรง จำนวนคนที่ใช้งาน Facebook จึงมีจำนวนมากขึ้น การตลาดบน Facebook จึงเป็นเรื่องไม่อาจมองข้ามไปได้ ทำไมต้องลงโฆษณาบน Facebook บทความนี้มีคำตอบ
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งตามประชากรศาสตร์ (Demographic )ระบุช่วงอายุ เพศ ที่อยู่ได้ หรือจะแบ่งตามความสนใจ (Interest) ก็ได้อีก หรือแม้กระทั่งแบ่งตามระบบปฏิบัติการของสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ หรือจะแยกย่อยรุ่นมือถือก็ยังได้ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม
เช่น ถ้าหากคุณต้องการจำหน่ายเคสมือถือสำหรับ iPhone 7 ก็สามารถเลือกโฆษณาให้แสดงเฉพาะบนผู้ที่ใช้งานบน iPhone 7 เท่านั้น หรือถ้าทำกิจการร้านอาหาร สามารถเลือกโฆษณาให้แสดงเฉพาะผู้ที่อาศัยในรัศมี 10 กิโลเมตรจากร้านก็ทำได้เช่นกัน
Facebook เปิดโอกาสให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ รวมไปถึงธุรกิจเล็กๆ ที่ยังมีเงินทุนจำกัด ไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่ ก็สามารถลงโฆษณากับ Facebook ได้ ดังนั้นถ้าหากมั่นใจว่าสินค้าและบริการของเราดี มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น รวมไปถึงมีกลยุทธ์การโฆษณาที่ดี เงินเพียงหลักร้อยนี้อาจช่วยทำให้ขายสินค้าหรือบริการดีมากขึ้นอย่างทันตาเห็น
ในยุคก่อนที่จะมีอินเทอร์เน็ต การตลาดแบบสื่อสารสองทางจำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านและพนักงานขาย แต่สำหรับในยุคปัจจุบันนั้น การขายไม่ต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป และยังคงการสื่อสารแบบสองทางไว้ สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้โดยตรง ผิดกับการโฆษณาประเภทอื่นๆ ที่มักจะเป็นการสื่อสารทางเดียว (One Way Communication)
ข้อดีของการสื่อสารสองทางจะช่วยทำให้เรารับทราบข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ซื้อสินค้าและบริการได้โดยตรง สามารถสื่อสารได้อย่างตรงจุด ถ้าหากเปิดใจให้กว้างและมองอย่างเป็นกลางแล้วแล้ว นับว่ามีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้เรารู้ถึงจุดบกพร่องของสินค้าและบริการได้ แล้วนำข้อเสนอแนะนั้นมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้ดีขึ้นไป
การใช้วิธี Remarketing คือการแสดงโฆษณาให้กับคนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของเรา ซึ่งมีโอกาสขายสินค้าหรือบริการได้มากกว่าการหว่านโฆษณาโดยทั่วไป เพราะคนที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา หมายถึงสนใจในสินค้าหรือบริการของเราแล้ว แต่ยังไม่อาจตัดสินใจในทันที การใช้เทคนิค Remarketing ก็จะช่วยให้ขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น