นับตั้งแต่การมาถึงของ Fred ซึ่งเป็นอัลกอริทึมตัวล่าสุดของ Google เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อการทำ SEO อย่างมากเลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับการมาของสิ่งนี้คือการกำจัด “Content ที่ไม่มีคุณภาพออกไป” รวมถึงเว็บไซต์ที่มีการยิง Ads หรือการแสดง Affiliate Link ที่มากจนเกินไปให้มองเห็นได้น้อยลง ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายเว็บไซต์ที่ต่างก็ได้รับผลจากเรื่องนี้ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ พร้อมมองหาวิธีการปรับปรุง Content ให้มีคุณภาพมากขึ้น
หนึ่งในวิธีการดังกล่าวคือการใช้ Social Listening เข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภค ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขากำลังทำอะไรหรือสนใจสิ่งใดในขณะนั้น เพื่อที่จะนำไปใช้ทำกลยุทธ์ทางการตลาดได้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีผลกับการทำ SEO อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน
Social Listening คืออะไร?
ก่อนที่เราจะนำไปประยุกต์ใช้ในด้าน SEO เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า Social Listening คือหนึ่งในกระบวนการสำหรับการติดตามข้อมูลของผู้บริโภค เพื่อใช้ในการวิเคราะห์การมีปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Twitter, Instagram, pinterest หรือสื่ออื่นบนอินเทอร์เน็ต มีจุดประสงค์หลักในการใช้ทำความเข้าใจถึงความรู้สึก พฤติกรรม ความคิดเห็น และแนวโน้มการบริโภคของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเห็น Insights ของตลาดให้ได้มากที่สุด เปรียบเทียบได้กับ “การรับฟัง” ที่จะทำให้เราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ได้ว่าควรจะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้อย่างไรจากบริบท (Context) ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสามารถทำได้ในทุกกระบวนการของการทำการตลาด นับตั้งแต่การวางแผนสร้าง Product ไปจนถึงการปรับปรุง Feedback
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเครื่องดื่มอาจใช้ Social Listening เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าชื่นชอบเครื่องดื่มชนิดใด สามารถทำการแข่งขันกับเจ้าอื่นได้หรือไม่ ผ่านการวิเคราะห์คู่แข่งจากความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าว่าผู้คนพูดถึงสินค้าเครื่องดื่มต่าง ๆ อย่างไร เพื่อสามารถใช้ข้อมูลส่วนนั้นนำมาสร้างหรือพัฒนาสินค้าที่ใช้ตอบโจทย์ผู้บริโภคออกมาให้ได้มากที่สุด ทั้งยังสำรวจได้อีกว่าผู้บริโภคชอบสินค้าของเราหรือไม่ และอะไรคือจุดที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคต
เห็นได้ว่าเรื่องนี้มีความครอบคลุมในหลายมิติเพื่อให้เราได้นำไปใช้งานอย่างหลากหลายในแง่ของการวางกลยุทธ์การตลาด ใครที่เห็น Insights ได้มากกว่าก็ย่อมหมายถึงโอกาสที่คว้าไอเดียเพื่อทำการตลาดได้มากขึ้นตามไปด้วย
เทคนิคใช้ Social Listening เพื่อทำ SEO ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
แม้การใช้ Social Listening จะเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับการทำ SEO ก็เรียกได้ว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน โดยข้อมูลต่อไปนี้คือรูปแบบการใช้งานด้าน SEO ที่จะช่วยเพิ่มการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. เก็บตกเว็บไซต์ที่สามารถทำ Backlink
วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือสำหรับ Social Listening ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็น Google Trends, Boolean, FanpageKarma, Mentionmapp เป็นต้น โดยการใช้เครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้เราค้นหาได้ว่ามีการกล่าวถึงแบรนด์บนเว็บไซต์ใดบ้าง ที่อาจจะยังไม่ได้ทำลิงก์เชื่อมมายังหน้าเว็บไซต์หลักของเรา ซึ่งเกี่ยวกับการทำ Backlink ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Backlink สำคัญกับการทำ SEO ยังไง เพื่อทำการขอให้เว็บไซต์นั้นลิงก์มายังเว็บไซต์ของเราเพิ่มเติมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อไป
บางกรณีอาจใช้การจ่ายเงินเพื่อซื้อการเชื่อมโยงลิงก์ หากวิเคราะห์แล้วว่า Content มีคุณภาพมากพอ เรียกได้ว่ากระบวนการนี้จะช่วยให้เราสามารถไล่เก็บแหล่งที่ช่วยทำ Backlink ได้มากขึ้น ใช้ได้ผลดีกับช่วงที่แบรนด์มีการเติบโตหรือเริ่มเป็นที่ถูกพูดถึง
2. Monitor ลิงก์ในเว็บไซต์
เราสามารถใช้เพื่อการตรวจสอบได้ว่าลิงก์ที่ถูกเชื่อมโยงมาเป็นลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ใด และมีคุณภาพหรือไม่ เพื่อให้รู้วัตถุประสงค์ทางด้านของการตลาดที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์หลักของเราถูกแชร์ข้อมูลหน้า Product ไปยังเว็บไซต์หนึ่ง เมื่อเราเข้าไปดูก็พบว่าหน้าที่ถูกลิงก์ไปได้แสดงผลของหน้าเว็บไซต์ที่กำลังรีวิวสินค้าของเราอยู่ จึงสามารถอนุมานได้ว่าสินค้าของเราอาจถูกนำไปทำ Content เพื่อส่งเสริมการขายอื่น ๆ หรือเพื่อการนำไปทำ Affiliate โดยวิธีนี้ช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมของสินค้าได้มากขึ้นว่าไปปรากฏอยู่ในลักษณะไหน และพอจะนำมาประยุกต์ใช้อย่างไรได้บ้าง รวมไปถึงการจำกัดลิงก์เชื่อมไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพหรือป้องกันลิงก์สแปมที่ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับได้
3. ค้นหาโอกาสในการทำ Guest blogging
คล้ายกันกับการเก็บตก Backlink แต่วิธีการทำ Guest blogging จะเป็นการหาโอกาสใหม่มากกว่าว่าจะมีเว็บไซต์ใดที่เหมาะกับแบรนด์ของเราในการนำโพสต์หรือ Content ไปฝากไว้ได้ จากการสำรวจธุรกิจประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียงกันที่ทำให้เราสามารถเห็นช่องทางการในการสร้าง Backlink ได้มากขึ้น อย่างที่เรารู้กันว่า Guest blogging นับเป็นอีกกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการเพิ่มพลังให้ SEO ดังนั้นการใช้ Social Listening เข้ามาช่วยจึงทำให้เราอาจมองเห็นโอกาสเพิ่มการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้มากยิ่งขึ้น
4. ใช้จับตาดูชื่อเสียงของแบรนด์
ในอดีตเคยมีแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงยอดแย่ให้แก่ผู้บริโภค โดยหลังจากนั้นมีผู้คนมากมายได้ตามไปรีวิวหรือพูดถึงกันในเชิงลบในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งปรากฏการณ์ในครั้งนั้นเคยนับได้ว่า “เป็นผลดีต่อการทำ SEO” เนื่องจากมีผู้คนมากมายได้กล่าวถึง แต่ในปัจจุบันสิ่งนี้ได้ถูก Google เปลี่ยนแปลงพร้อมให้ความสำคัญในแง่ที่ว่า ความคิดเห็นในเชิงลบทั้งหลายต่อเว็บไซต์หนึ่งไม่ควรจะถูกโหวตให้เว็บไซต์นั้น ๆ ได้ติดอันดับอย่างที่ควรจะเป็น
เรื่องนี้ได้กลายเป็นปัจจัยที่ Google ให้ความสำคัญว่าเว็บไซต์ต้องมีคุณภาพในเชิงสร้างสรรค์ ด้วยเหตุนี้เราสามารถที่จะใช้ Social Listening เพื่อดูผลลัพธ์ทางการตลาดได้ว่าจะเกิดแนวโน้มแบบใดขึ้นเพื่อส่งเสริมในด้านดีหรือป้องกันปัญหาแย่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที เพราะทุกอย่างที่ขับเคลื่อนไปตามความเห็นของผู้บริโภคจะมีส่งผลต่อการทำ SEO ด้วยนั่นเอง
5. เพิ่มการกล่าวถึงแบรนด์ ผ่านการสร้าง Content ที่ดี
แม้ว่าการสร้าง Backlink ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการทำ SEO แต่ขณะเดียวกัน Google ก็พยายามจะลดบทบาทตรงนี้ให้น้อยลงเรื่อย ๆ คุณจะเห็นได้ว่า Google ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อหาวิธีใหม่ เพื่อใช้ในการวัดคุณค่าที่แท้จริงของเว็บไซต์ให้ User ได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์โดยตรง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการติดตามดูพฤติกรรมของผู้คนบน Social media กลายเป็นแหล่งอ้างอิงชั้นดีที่จะช่วยให้ยืนยันได้ว่าพวกเขาสนใจอะไรและมีมุมมองอย่างไรกับ Content ประเภทต่าง ๆ
โดย Gary Illyes นักวิเคราะห์เทรนด์เว็บมาสเตอร์ของ Google ได้เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าเรามุ่งเน้นที่จะเผยแพร่ Content คุณภาพที่มีการอ้างอิงสูงบนอินเทอร์เน็ต ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องมาจากการทำ Link building เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการถูกพูดถึงบนสื่ออื่นในอินเทอร์เน็ตไปจนถึงบน Social media อีกด้วย นับเป็นอีกปัจจัยเช่นกันที่ส่งผลให้การทำ SEO ของเราดีขึ้นหากมีการถูกพูดถึงไปในวงกว้างด้วย Content ที่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จริง ๆ
6. เรียนรู้ที่จะเอาชนะคู่แข่ง
จากเคล็ดลับทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น คุณเองก็สามารถใช้วิธีดังกล่าวเพื่อตรวจสอบคู่แข่งของคุณและค้นหาว่าพวกเขาได้รับลิงก์จากที่ใด ได้รับ Guest blogging จากเว็บไซต์ไหนที่พวกเขาทำงานด้วย เป็นต้น ข้อมูลทั้งหมดนี้สามารถใช้ในกลยุทธ์การตลาดและ SEO ของคุณได้มากกว่าเดิม เรียกได้ว่าเป็นหนทางที่จะทำให้คุณก้าวทันคู่แข่งหรือจะหาช่องทางใหม่ที่ก้าวนำพวกเขาไปอีกขั้น
สรุป : Social Listening กับการทำ SEO ในอนาคต
เชื่อได้ว่าการมีข้อมูลที่มากพอจะนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์ได้ ซึ่งการใช้ Social Listening จะช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลของผู้บริโภค เพื่อนำ “Data” มาใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดในการทำการตลาด ไม่ต่างจากการได้ตั้งใจรับฟังใครสักคนเพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเขาต้องการอะไรจริง ๆ
ซึ่งการทำ SEO ด้วยการใช้วิธีการนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เราปรับตัวได้ทันอัลกอริทึมของ Google เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงวิธีทำ SEO แบบเดิม ๆ และหันมาโฟกัสพัฒนาด้านการทำ On-Page มากขึ้นยิ่งขึ้นเพื่อมอบ Content ที่มีคุณค่าและสร้างความน่าเชื่อถือที่จะฝังลึกลงไปในใจของผู้บริโภค สิ่งนี้คือปัจจัยสำคัญที่เราเชื่อได้เลยว่าจะทำให้เว็บไซต์สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน