หากใครเป็นคนที่ทำธุรกิจด้วยสื่อโซเชียลมีเดีย เราอาจคุ้นหูกับคำว่า “Engagement ” กันมาบ้าง ซึ่งมันหมายถึง “การมีส่วนร่วม” นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการกด Like, Comment, Share ในขณะเดียวกัน Engagement Marketing ก็มีความหมายคล้ายกันแต่จะมีภาพที่กว้างขึ้นมาอีกขั้น ตรงที่การมีส่วนร่วมแบบนี้จะเน้นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้ผู้คนได้ทำอะไรบางอย่างกับแคมเปญของเรา
โดยการใช้กลยุทธ์นี้ จะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าช่วย เพิ่มยอดขาย, ชื่อเสียง และความไว้วางใจลูกค้า แต่จริง ๆ แล้วเจ้า “การตลาดเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม” คืออะไร และมันจะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร? เรามาลองเริ่มต้นทำความรู้จักกันในบทความนี้เลย
Engagement Marketing คืออะไร?

Engagement Marketing คือกลยุทธ์และการสร้างสถานการณ์ที่จำเป็นในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ไปจนถึงการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Inbound marketing ที่ใช้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
- Email marketing
- Content marketing
- Social media marketing
- Marketing automation
เมื่อคุณใช้การตลาดเน้นความมีส่วนร่วม สิ่งสำคัญที่พลาดไปไม่ได้เลยก็คือ การออกแบบกลยุทธ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานอยากที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ออกมา โดยกลยุทธ์เช่นนี้จะไม่มีรูปแบบที่ตายตัว มักออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถที่จะเข้าถึงสินค้าและพยายามใกล้ชิด (กึ่งเรียนรู้) ในการทำความเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ก่อนที่จะทำแบบนี้ได้ นักการตลาดจะต้องใช้ข้อมูลเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้าไปจนถึงพยายามออกแบบพฤติกรรมของพวกเขา ผ่านประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีเป้าหมายชัดเจน ลองให้คุณนึกถึงการใช้ Call to Action ที่เหมาะสมในบางสถานการณ์ของแคมเปญทางการตลาด โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ นั่นก็อาจทำให้ธุรกิจได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ หรือภาพที่กว้างขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการวางกลยุทธ์เพิ่มเติมนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้ Engagement Marketing ประสบความสำเร็จ

หนึ่งสิ่งที่ทำให้ Engagement Marketing มีความโดดเด่น ไม่ใช่เพราะการตลาดแบบนี้มีรูปแบบที่ตายตัว แต่มันคือการพลิกแพลงที่เราสามารถเล่นกับกิจกรรม ไปจนถึงความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ นับเป็นโจทย์ที่มีความยากและท้าทาย ในทางกลับกันแม้ว่ากลยุทธ์นี้เหมือนจะดีแค่ไหน แต่หากมันถูกใช้ไม่ถูกที่หรือไม่สามารถสร้างการเข้าถึงที่ดีได้ ก็อาจทำให้แคมเปญดูเฉย ๆ และไม่น่าสนใจไปเลย
แต่ในตอนนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่าอะไรคือองค์ประกอบสำคัญอะไรบ้างที่ทำให้การตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วมนั้นมีโอกาสสำเร็จได้
- ให้ความสำคัญกับรายละเอียดบุคคล
การลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า จะแตกต่างจากการที่เราคุยกับกลุ่มคนจำนวนมาก เทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนเรากำลังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ ทีละคน พยายามเข้าใจว่าเขาชอบอะไร สนใจเรื่องอะไร มีความต้องการอย่างไรในชีวิต และสิ่งเหล่านี้เป็นการบอกเราว่าเราควรจะมีส่วนร่วมกับพวกเขาอย่างไร และจะสามารถวางแผนเพื่อหา Insights ได้ถูกต้องยิ่งขึ้น - ติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภค
แทนที่เราจะคิดเอาเองว่าใครชอบอะไร เราก็สามารถใช้การเฝ้าสังเกตได้ว่าผู้บริโภคมีชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ติดตามช่องว่างระหว่างวันว่ามีจุดไหนที่เราสามารถนำไปวางกลยุทธ์เพื่อเสนอบริการของเราได้บ้าง - ตั้งใจฟังลูกค้าเสมอ
การฟังลูกค้าหรือทำ Social listening เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราหา Insights ได้ดี นี่คือหัวใจที่จะทำให้เราสร้างแคมเปญที่เข้าไปถึงหัวใจลูกค้าได้อย่างทรงพลังทีเดียว - สร้างความสัมพันธ์ให้ยืนยาว
เรียกได้ว่าการใช้ Engagement Marketing ไม่ต่างจากการเล่นเกมยาว จุดที่สำคัญของกลยุทธ์นี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณจะสร้างยอดขายได้มากแค่ไหน แต่เป็น “สร้างการจดจำได้มากเท่าไหร่” นี่คือหน่วยวัดที่บอกคุณว่าในระยะยาวแล้วลูกค้าจะรู้สึกถึงประสบการณ์เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณได้ดีแค่ไหนด้วยนั่นเอง - ลูกค้าอยู่ที่ไหน เราต้องอยู่ที่นั่น
ที่ไหนมีลูกค้าที่นั่นย่อมมีเงิน นี่คือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่านักการตลาดที่ดีจะต้องรู้ว่าแหล่งทำเงินอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีแพลตฟอร์มมากมาย เรายิ่งต้องรู้ว่าช่องทางไหนคือช่องทางที่จะทำแคมเปญแต่ล่ะแคมเปญได้อย่างเหมาะสม
ทำไมธุรกิจถึงต้องการ Engagement Marketing มากกว่าที่คิด?

การโฆษณาในปัจจุบันอาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกเอียนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เสมือนกับหลีกหนีไม่พ้นสิ่งนี้ โดย Forbes ได้ประเมินไว้ว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ได้รับการกระตุ้นจากโฆษณาระหว่าง 4,000 ถึง 10,000 ข้อความต่อวัน แต่จากนั้นบุคคลจะจดจำได้เพียงไม่กี่ข้อความ นี่เป็นปัญหาชัดเจนสำหรับนักการตลาดอย่างชัดเจน เพราะคนทั่วไปไม่ชอบที่จะถูกขายสินค้าให้ ดังนั้นนี่คือคำถามว่า “เราจะเข้าถึงผู้ซื้อได้อย่างไร?”
เริ่มต้นแรก เราต้องระลึกไว้ว่าแม้คนจะไม่ชอบการตลาด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ทำการซื้อสินค้า ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องออกแบบวิธีที่จะเข้าถึงผู้ซื้อในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและยินดีที่จะให้ผู้คนเข้ามาหาเราหรือ “มองเราบ้าง” นั่นคือที่มาของการตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วม ที่นักการตลาดมักออกแคมเปญใด ๆ ก็ตามที่กระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคเสมอ เพื่อให้พวกเขาได้ระบาย หรือมีที่ปลดปล่อยทางความคิดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์
โดยจุดเด่นอีกอย่างคือ การตลาดเน้นการมีส่วนร่วมแบบนี้ ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากลูกค้าได้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำไปปรับปรุงสินค้าหรือบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดมากขึ้น
ดังนั้น การตลาดแบบนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อยอดขายในระยะสั้น แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าไปในตัว
ปัญหาทั่วไปที่ Engagement Marketing สามารถแก้ไขได้

การตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วมมักคำนึงถึงทุกขั้นตอนของการเดินทางของผู้ซื้อ (Customer journey) และนี่คือตัวอย่างของปัญหาที่การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบนี้อาจช่วยคุณได้
- หากคุณต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ที่ดีขึ้น
ถ้าคุณอยากให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น การตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วมนี่แหละ คือกุญแจสำคัญ การเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ และสร้างความสนใจหรือความหิวโหยในผลิตภัณฑ์จะเป็นการกระตุ้นที่ดีและตรงไปตรงมา
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอาง พวกเขาไม่ได้แค่โฆษณาสินค้าอย่างเดียว แต่ยังสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวกับเคล็ดลับความงาม วิธีการแต่งหน้า หรือแม้แต่การทำคอนเทนต์ร่วมกับเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้คนได้มากกว่าแค่การขายสินค้า พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ แบ่งปันเรื่องราว และที่สำคัญ ทำให้คนเห็นว่าแบรนด์ของพวกเขาใส่ใจในลูกค้าจริง ๆ
เป็นธรรมดาที่เดี๋ยวนี้คนเราชอบแบรนด์ที่เข้าใจเรา ไม่แค่ขายของ แต่ยังให้ความรู้ ให้แรงบันดาลใจ และทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา นั่นล่ะคือการสร้างการรับรู้แบรนด์ที่ดีขึ้นในยุคนี้ได้กลมกลืน - กลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ ไม่ก่อให้เกิดความสนใจมากพอ
ในยุคปัจจุบันคนเรามักจะหันไปสนใจในสิ่งที่ตอบโจทย์หรือสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เราได้มากกว่า การทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ หรือได้ประสบการณ์ที่ดีจากแบรนด์ของคุณ นี่แหละคือหัวใจสำคัญ และเป็นวิธีที่จะช่วยให้กลยุทธ์ของคุณเรียกความสนใจได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์กาแฟที่ไม่ได้แค่โปรโมทว่ากาแฟของตัวเองอร่อยเท่านั้น แต่ยังจัดกิจกรรมเช่น การสอนทำกาแฟ การแชร์เรื่องราวของเกษตรกรที่ปลูกกาแฟ หรือแม้แต่การทำคอนเทนต์เกี่ยวกับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่รู้จักแบรนด์จากโฆษณาอย่างเดียว ซึ่งจะกระตุ้นความสนใจได้อีกระดับ - เมื่อจำเป็นต้องสร้างความพึงพอใจให้กับแบรนด์มากกว่านี้
หากคุณกำลังหาวิธีเพิ่มความพอใจให้กับแบรนด์ของคุณ การใช้การตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วมอาจทำให้คุณคิดถึงแคมเปญที่เสริมการตัดสินใจได้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการขายสินค้าอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับลูกค้า
เช่น แบรนด์เสื้อผ้าที่มีการจัดแคมเปญที่ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโหวตดีไซน์ใหม่ ๆ ไปจนถึงการประกวดตั้งชื่อคอลเลคชั่นใหม่ การทำกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความพึงพอใจแล้ว ยังช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้อีกด้วย - ต้องเข้าถึงผู้ซื้อและลูกค้ามากขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า ‘หากคุณมีเงินไม่มากพอ คุณก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ทดแทน’ นี่คือหนึ่งในคำตอบชั้นดีที่จะบอกได้ว่าทำไม การคิดแคมเปญต่าง ๆ ต้องมีไอเดียที่ดีเป็นจุดเริ่มต้น หากวันนี้คุณกำลังติดปัญหาเรื่องเงิน ไม่เป็นการทำแคมเปญขนาดใหญ่ หรือต้องยอมเสียค่าโฆษณาเป็นจำนวนมหาศาล เราเชื่อว่า Engagement Marketing จะช่วยคุณได้
ลองนึกถึงแบรนด์ที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์และมีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สตรีมแนะนำสินค้า การจัดแคมเปญที่เชิญชวนให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วม หรือการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้น โดยใช้งบประมาณที่น้อยลง
เคล็ดลับการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด Engagement Marketing ฉบับย่อ

หากว่าคุณมีแผนที่จะทำ Engagement Marketing เป็นของตัวเองแล้ว นี่คือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้กลยุทธ์การตลาดของคุณได้เสริมพลังไปอีกขั้น
- จัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบ
การมีข้อมูลที่เรียบร้อยและจัดการได้ดีช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น นำไปสู่การตอบสนองที่เหมาะสมและรวดเร็วต่อการสร้างแคมเปญที่ใช่ - หาแพลตฟอร์มที่ใช่
การใช้แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การตลาดของคุณช่วยให้การสื่อสารและการมีส่วนร่วมเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการใช้เครื่องมือด้านการตลาดที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น - ให้ความสำคัญกับปรับแต่งประสบการณ์
การทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าพิเศษมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านการส่งข้อความที่มีการปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมหรือความชอบของลูกค้า ก็จะเป็นส่วนช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษกับแบรนด์ได้ดีไปอีกขั้น - ใส่ใจเรื่องกลยุทธ์การวาง Content
เนื้อหาคุณภาพที่สอดคล้องกับความสนใจและต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบทความ, วิดีโอ, หรือกราฟิก ทั้งหมดนี้ควรจะสื่อถึงความเป็นแบรนด์ของคุณ ให้คุณพยายามสร้างการมีส่วนร่วมตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคจะช่วยให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น - ใช้ประโยชน์จาก Social Media
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เป็นที่ที่ลูกค้าของคุณใช้เวลามากมายอยู่ในนั้น การเลือกใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์จะช่วยให้คุณค้นหาได้ว่าลูกค้ากำลังต้องการอะไร รวมไปถึงการนำเสนอกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ - ให้ AI เป็นผู้ช่วยของคุณ
การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ในทางเดียวกันมันก็อาจเป็นผู้ช่วยให้คุณสามารถค้นหาแคมเปญใหม่ ๆ ได้ด้วย นี่จึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะลองใช้มันดูสักครั้ง เพื่อสร้างรูปแบบการตลาดที่ไม่เหมือนใคร
บทสรุป: สิ่งที่ทำให้ Engagement Marketing สำคัญคือความคิดสร้างสรรค์ที่เข้าถึงได้
การสร้างแคมเปญทางการตลาดอาจไม่มีใครที่การันตีว่าได้ผลดี ดังนั้นการพยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดคือเรื่องที่จำเป็นที่จะทำให้คุณเห็นความต้องการของผู้บริโภคได้ตรง แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม Engagement Marketing ก็มีกลยุทธ์มากมายหลากหลายรอคุณอยู่ อย่าลืมว่าการทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับเรา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไอเดียสร้างสรรค์และดึงดูดได้มากพอเพื่อทำให้ผู้คน (ยินดี) เข้าถึงได้ นี่คือเรื่องท้าทายที่บอกเราว่าหากทำสำเร็จผู้คนก็พร้อมที่จะจดจำเราไปอีกนาน










