FAQ Schema ในบทความ SEO มีความสำคัญอย่างไร/ช่วยเรื่องใดบ้าง และมีแนวทางการเขียนเป็นอย่างไร

Picture of THAITOPSEO
THAITOPSEO

ผู้อ่านเคยได้ยินคำว่า FAQ Schema ไหมครับ สำหรับคนที่ทำ หรือเคยอ่านเรื่อง SEO ต้องรู้จักกันบ้าง เพราะ FAQ เป็นการใส่รายการคำถามและคำตอบที่พบบ่อยและเกี่ยวกับหัวข้อของบทความ และ Schema เป็นชุดคำสั่งพิเศษที่ทำไว้ให้เว็บไซต์แสดงข้อมูลบนหน้าผลการค้นหา (SERP) โดย FAQ ย่อมาจาก Frequently Asked Questions ช่วยให้เว็บไซต์มีความน่าสนใจขึ้นและทำให้คนเห็นเว็บไซต์เราบนหน้าการค้นทำให้คนคลิกเข้ามาอ่านบทความข้างในและทำการซื้อและใช้บริการธุรกิจของเรา วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ Schema Markup FAQ กันว่ามันคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร แล้วช่วยเรื่องใดบ้างตลอดจนแนวทางการเขียนว่าควรเป็นอย่างไร

FAQ Schema คืออะไร?

FAQ Schema คืออะไร


FAQ Schema คือ ชุดของคำสั่งหรือโครงสร้างข้อมูลที่ช่วยให้เว็บไซต์สามารถแจ้งให้เครื่องมือค้นหาอย่าง Google ทราบว่าหน้าเว็บนั้นมีส่วนของคำถามที่พบบ่อย (FAQ) ซึ่งจะช่วยให้หน้าผลการค้นหา (SERP) แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถามและคำตอบเหล่านั้นได้โดยตรง ผลลัพธ์คือการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานและมีโอกาสในการเพิ่มการเข้าชมให้กับเว็บไซต์ดังกล่าวที่ตอบคำถามนั้นได้

ถ้าให้เปรียบง่าย ๆ ก็คือรูปแบบหนึ่งของหน้าเว็บไซต์เพื่อการตอบคำถามทั่วไป ใครก็ตามที่มีคำถามที่เฉพาะเจาะจงลงหน้า Google สามารถตามลิงก์ไปที่ FAQ ของเว็บไซต์และระบุคำถามที่เกี่ยวข้องได้ จากนั้นหน้าเว็บไซต์จะเริ่มเพิ่มคำถามที่พบบ่อยในหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องโดยตรง วิธีนี้คำถามที่เกี่ยวข้องของผู้เข้าชมสามารถหาคำตอบได้ในหน้าเพจเดียวกันได้ สำหรับ SEO แล้ว FAQ มีความสำคัญอย่างไร


FAQ Schema มีความสำคัญอย่างไร กับการทำ SEO

FAQ Schema มีความสำคัญอย่างไร กับการทำ SEO


สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการทำ SEO คือการทำให้เครื่องมือค้นหา (Search Engine) เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเราคืออะไร เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ซึ่ง FAQ Schema คือ Structured Data ที่เป็นข้อมูลจัดระบบโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของเรา โดย Structured Data จัดเรียงชุด Coding หรือชุดคำสั่ง ที่ถูกป้อนไว้ข้างในทำให้ Search Engine เข้าใจว่าในหน้านั้นข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร และมีรูปแบบอย่างไร หากข้อมูลถูกจัดระเบียบได้แล้ว จะมีผู้ใช้ค้นพบเว็บไซต์ของเราได้ง่ายจาก Keyword และจะมีข้อมูลส่วนอื่น ๆ เพิ่มมา ส่วนใหญ่จะเป็น FAQ เช่น สถานที่ตั้ง ราคา รีวิวหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่จะทำผู้ใช้ตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการจากธุรกิจของเราได้เลยโดยไม่ต้องกดลิงก์เข้าไป

นอกจากนี้การทำ FAQ จะทำให้เว็บไซต์ของเราโดดเด่นและน่าเชื่อถืออีกด้วย ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำธุรกิจของเราสามารถนำหน้าคู่แข่งไปได้ ความสำคัญของ Schema FAQ ต่อ SEO คือ การตอบคำถาม Keyword ของผู้ใช้จากการค้นหาถึงสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการทราบข้อมูล และยังทำให้เว็บไซต์น่าสนใจ โดนเด่น สวยงาม เนื่องจากมีหน้าที่แสดงผลของเว็บไซต์ แถมยังเป็นการล่อตาล่อใจของคนให้คลิกเข้าเว็บไซต์ของเรา ทำให้เว็บไซต์ของเราอยู่ในอันดับนานขึ้นจากการเก็บยอดเข้าชม กล่าวอีกแบบคือ FAQ มีผลทำให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้นและยังทำให้กลุ่มเป้าหมายในผู้ใช้เห็นในสิ่งที่พวกเขาอยากได้จากเว็บไซต์ของเรา รวมถึงสามารถเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของเราได้ด้วย


ตัวอย่างลักษณะของ FAQ Schema ที่สามารถพบเห็นได้บ่อย

FAQ Schema เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการแสดงคำถามที่พบบ่อยและคำตอบของมันบนหน้าผลการค้นหาเว็บไซต์ โดยลักษณะของ FAQ ที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยมีดังนี้

ลักษณะแบบบทความ (Article)

article-rich-result

เป็นลักษณะที่ใช้กับ ข่าว บล็อกและบทความเกี่ยวกับกีฬา เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ของเรา ซึ่งบทความลักษณะนี้จะแสดงผลลัพธ์ให้เห็น ข้อความย่อ รูปภาพและข้อมูลวันที่ จากหน้าเว็บไซต์ของเราบน Google, Google News หรือ Google Assistant


ลักษณะแบบหนังสือ (Book)

search-gallery-books01


เป็นลักษณะการแสดงรายการหนังสือ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการค้นหาหนังสือและผู้แต่ง เปิดใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ได้ซื้อและยืมหนังสือที่ค้นหาได้โดยตรงและรวดเร็วจากผลลัพธ์การค้นหา


ลักษณะแบบเครื่องมือนำทางให้เว็บไซต์ (Breadcrumb)

breadcrumb


เป็นลักษณะของทางชี้นำของเว็บไซต์เพื่อบอกตำแหน่งของหน้าในลำดับชั้นของเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้เข้าใจและสำรวจเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ลักษณะแบบม้าหมุน (Carousel)

movie-rich-result


เป็นลักษณะที่ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วปัดผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งลักษณะนี้จะแสดงภาพโปสการ์ดขึ้นมาจากเว็บไซต์เดียวกัน ประเภทเนื้อหาที่ใช้กับลักษณะนี้ ได้แก่ หนัง โปรแกรมการสอน สูตรอาหารและร้านอาหาร เป็นต้น


ลักษณะแบบตำแหน่งธุรกิจ (Local Business)

local-business


เป็นลักษณะที่พบเห็นบ่อยเมื่อใช้ค้นหาสถานที่ แผนที่ ผลลัพธ์การค้นหาจะแสดงแผงความรู้ที่โดดเด่นขึ้นมากบนข้อมูลของธุรกิจให้สอดคล้องกับคำค้นหา เมื่อผู้ใช้ใช้คำค้น เช่น ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ พวกเขาก็จะเห็นแผงม้าหมุนของรายการร้านอาหาร ซึ่งเจ้าของธุรกิจสามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ เช่น เวลาทำการหรือบริการ แผนกต่าง ๆ ของธุรกิจ รีวิว การสั่งจอง หรืออื่น ๆ เป็นต้น


วิธีการสร้าง FAQ Schema แบบทั่วไป

จากตัวอย่างลักษณะของ Structure Data ที่ผู้เขียนได้แสดงให้เห็นแล้วนั้น การสร้าง Schema ต้องใช้ Coding ใส่ข้อมูลลงไปหลัง ซึ่งรูปแบบการติดตั้ง Code ลงหลังเว็บไซต์ มีอยู่ 2 แบบ คือ

JSON-LA (JavaScript Object Notation for Linked Data)

เป็นรูปแบบที่ใช้อธิบายองค์ประกอบการสร้างคำใน Schema FAQ มีลักษณะโครงสร้างที่ง่ายไม่ซับซ้อนทำให้เก็บข้อมูลกระชับ เกิดการใช้พื้นที่น้อยทำให้ใช้งานได้รวดเร็ว เครื่องหมายของ JSON ได้แก่

  • เครื่องหมาย Colon “ : ”ใช้แยกค่า Name และ Value
  • เครื่องหมาย Comma “ , ” ใช้แยก Name-value ในแต่ละคู่
  • เครื่องหมาย Braces “ {…..} ”ใช้ระบุ Object
  • เครื่องหมาย Square Brackets “ […..] ” ใช้ระบุ Array
  • เครื่องหมาย Quotation “………” ใช้เขียนค่า name-value ใน JSON

แต่เราไม่ต้องเขียนเองให้ยุ่งยากและเสียเวลาไปเพราะ มีเครื่องมือสร้าง Data แบบง่าย ๆ มาให้แล้ว เพียงเข้าไปที่ Schema Markup Generator เครื่องมือจากเว็บไซต์อื่น และสร้าง Schema ได้เลยเพียงแค่พิมพ์ประโยคคำถามและคำตอบของเราลงไป จากนั้นเครื่องมือก็จะสร้าง Code มาให้เรา ตรงนี้เราต้องคัดลอกมาติดตั้งในบทความที่จะทำ FAQ ซึ่งจะติดตั้งไว้ตรงไหนก็ได้แต่ควรอยู่ในช่วง Body จะดีที่สุด


Microdata

เป็นรูปแบบที่ใช้เก็บข้อมูล Metadata ในการนำข้อมูลไปแสดงที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เครื่องมือค้นดึงข้อมูลและผลประมาณจากเว็บไซต์ไปใช้ประโยชน์และปรับปรุงเพื่อมอบประสบการณ์ใช้การใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้ การทำงานจะใช้คำศัพท์ในการอธิบายและตั้งชื่อเพื่ออธิบายคุณสมบัติชิ้นนั้น วิธีนี้ต้องใช้ทักษะการแก้ไข Code เพราะมี Tag มาเสริมเพื่อให้เราเขียนเพิ่มขึ้นใหม่จาก Code อันเดิมของเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้ว การติด Tag จะทำให้เครื่องมือการค้นหา รู้ว่าความหมายของ Code ส่วนที่เราใส่ลงไปในเว็บไซต์ Microdata จะมีการกำหนด Scope ของธุรกิจ เช่น บุคคล เหตุการณ์ ผลิตภัณฑ์ หรือ ตำแหน่งของสถานที่เป็นต้น ยิ่งเราป้อนข้อมูลลงไปเท่าไหร่ก็จะทำให้ On-Page SEO ดีกว่าเว็บไซต์ของคู่แข่ง


แนวทางการเขียน FAQ Schema ในบทความ SEO

แนวทางการเขียน FAQ Schema ในบทความ SEO


การเขียนบทความแบบ SEO คือการเขียนแบบใช้ Keyword และการที่จะตั้งคำถามที่มักพบบ่อยนั้น ต้องใช้ในลักษณะเดียวกัน คือต้องเลือกคำหลัก หรือคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ที่จะเขียนต้องใช้เครื่องมือในการช่วยหา Keyword นั้นก็คือ Keyword Tool เพราะ เราต้องรู้เป็นอย่างดีว่าผู้ใช้ต้องการค้นหาอะไรเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ เมื่อเว็บไซต์เราตรงกับการค้นหาของผู้ใช้ ก็จะทำให้เว็บไซต์มีโอกาสที่จะแสดงให้ผู้ใช้เห็นมากเช่นกัน โดย Keyword ของ FAQ Schema จะเหมือนกับในเนื้อหาบทความ และแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่


1. Broad Match

ไม่มีสัญญาลักษณะพิเศษ เป็นการใส่คำปกติ นับว่าเป็น Keyword ที่กว้างที่สุด เพราะเมื่อมีการค้นหาคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน หรือมี Keyword อยู่ในประโยคและวลี ก็จะแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราบนหน้าการค้นหา แต่ข้อเสียคือมีโฆษณาแสดงมากเกินไปและไม่ความเชื่อมโยงกับคำหลักของเรา


2. Phrase Match

ลักษณะของการใส่ Keyword นี้ คือการใส่เครื่องหมายอัญประกาศ หรือ Quotation Mark “……..” ล้อม Keyword การใช้ Phrase Match Type จะแคบกว่า Broad Match Type แต่ไม่เท่าของ Exact Match กล่าวคือ เมื่อมีการค้นหาคำที่เราใส่คำ Keyword ลงไป ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตามผลการค้นหาก็จะแสดงโฆษณาของเรา ถือว่าเป็นข้อดีในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า Board Match นั้นเอง


3. Exact Match

เป็นลักษณะการใส่ Keyword โดยใช้สัญลักษณ์เครื่องหมายปีกกา หรือ Brackets “[….]” ล้อม Keyword เป็นคำค้นหาที่มีความเฉพาะตัวสูง คือต้องใช้คำค้นหาตาม Keyword เป๊ะ ๆ โดยห้ามผิดพลาดหรือสะกดผิดเลยถึงจะแสดงโฆษณาของเรา กล่าวคือ ถ้าคำค้นหาของผู้ใช้ไม่เหมือนกับคำหลักเราที่เราป้อนลงไป โฆษณาของเราก็จะไม่แสดงขึ้นมา มีข้อดีคือเราจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงกว่า แต่ข้อเสียคือ จำนวนลูกค้าก็น้อยลงลงตามความเฉพาะเจาะจงไปด้วย ดังนั้น การทำ Keyword แบบนี้จึงไม่เหมาะกับการ Brand Awareness หรือการสร้างการรับรู้ของแบรนด์


ข้อสรุป FAQ Schema ในบทความ SEO

เมื่อคุณรู้จัก ความหมายของ FAQ และ Schema ก็จะรู้ว่า เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ เว็บไซต์ของเราที่ทำ SEO สามารถติดอันดับของ Google ได้ง่ายขึ้น และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่ต้องการหาคำตอบที่สามารถแสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและยังทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่น่าสนใจ รวมถึงการเลือกใช้ Keyword ให้เหมาะสมในการนำมาสร้าง FAQ ให้กับเว็บไซต์เพื่อให้คนค้นหาเราเจอ จนนำไปสู่ผลประโยชน์ในทางที่ดีทั้งธุรกิจที่ทำยอดขายให้ได้ และการที่เว็บไซต์ที่ทำ SEO ถูกเข้าชมและจัดอันดับสูงขึ้น

Search
Categories