Keyword Tools ผู้ช่วยที่สำคัญของนัก SEO

Picture of THAITOPSEO
THAITOPSEO
Keyword Tools 01

Keyword Tools นับเป็นอีกปัจจัยหลักที่เหล่านัก SEO จำเป็นต้องใช้ เพื่อที่จะหา “Keyword ที่เหมาะสม” เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ Insight แบบไม่ต้องคาดเดา ว่าลูกค้ากำลังค้นหาอะไร ด้วยคำไหน เพื่อที่จะส่งมอบเนื้อหาไปให้ถึงผู้ที่ต้องการ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยอย่างมากในด้านการวางกลยุทธ์เพื่อให้เว็บไซต์ของเราได้เข้าไปอยู่ในใจ User

โดยในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Tools ยอดนิยมที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นลมหายใจของนัก SEO ให้รู้กันไปเลยว่า Tools ตัวไหนเด่นเรื่องอะไรและจะมีฟีเจอร์เด็ดแบบใดให้คุณเลือกใช้งานได้ถูกใจที่สุด

Keyword Tools สำคัญอย่างไร

Keyword Tools 02


ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไม Keyword Tools ถึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งต้องย้อนกลับไปที่จุดประสงค์ของมันเลยก็คือ เพื่อใช้วิเคราะห์หรือค้นหา “Keyword ” นั่นเอง ว่าคำนั้นมีภาพรวมต่อการค้นหาอย่างไร? คนค้นหาเยอะหรือไม่? ไปปรากฏอยู่ในหน้าเว็บไซต์มากน้อยแค่ไหน? ช่วงเวลาใดคือช่วงที่คนค้นหาคำนี้มากที่สุด? เป็นต้น

อย่างที่บอกไปข้างต้นเลยว่าการมี Keyword ที่ดีจะช่วยให้นักการตลาดสามารถวางกลยุทธ์เพื่อเข้าใจ Insight ของผู้บริโภคได้ ซึ่งตามปกติผู้คนมักใช้ Keyword เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาหรือเพื่อทำการค้นคว้าบางอย่างผ่าน Search engine เสมอ เช่น User ค้นหาว่า “วิธีกำจัด ไขมันส่วนเกิน” เราก็สามารถที่จะค้นหาได้ว่าเราควรใช้ Keyword ไหนเพื่อนำมาสร้าง Content และตอบโจทย์กับสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ และเมื่อ Content ของคุณไปปรากฏอยู่ในหน้าแรก ๆ บน Google ขณะที่ User กำลังค้นหา นั้นหมายความว่าพวกเขาจะสนใจและถูกดึงดูดให้กดเข้ามาอ่าน Content ของคุณ เป็นการช่วยเพิ่มยอด Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้ด้วยนั่นเอง

เห็นได้ว่าการกำหนด Keyword มีความสำคัญกับหัวข้อ (Topics) แบบที่แยกจากกันไม่ขาด เนื่องจาก Keyword คือสิ่งที่ควรอยู่ในโครงสร้างของหัวข้อ และหัวข้อเองก็ควรมี Keyword ที่ถูกแทรกเข้าไปด้วย ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าสิ่งนี้จะคอยกำหนดวิธีการสร้างและเนื้อหา Content ของคุณไปด้วยในตัวโดยเครื่องมือเหล่านี้ จะทำการวิเคราะห์ภาพรวมทั้งหมดของ Keyword นั้น ๆ เพื่อช่วยให้สามารถเข้าใจภาพรวมของตลาดได้ว่าควรแข่งขันด้วย Keyword ไหนและเจาะไปยัง Pain point ใดเป็นพิเศษ ซึ่งจะนำมาสู่การวางกลยุทธ์เพื่อสร้างสรรค์เนื้อหาได้ในที่สุด

Keyword Tools ที่ดีควรมีอะไรบ้าง

Keyword Tools 03



มาถึงคำถามว่า “เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Keyword Tools ที่ดีมีอะไรบ้าง?” โดยในหัวข้อนี้ไม่ได้บอกว่าอะไรคือปัจจัยที่ดีโดยสมบูรณ์แบบ แต่การที่เราจะใช้งานเครื่องมือ Tool สักตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่เราควรคำนึงถึงเลยก็คือ

  • สามารถ Analytics Keyword ได้อย่างเข้มข้น
    • Tools ที่ดีควรบ่งชี้ Dynamic ของ Keyword ได้อย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น ภาพรวม(Overview) หรือสามารถใช้ Tools ที่มีการจัดการ (Manage) Keyword อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการหา Keyword Gap ที่จะช่วยให้เราเข้าใจได้ว่ามีเส้นทางที่เราจะก้าวทันคู่แข่งได้อย่างไร โดย Tools ดีจะต้องมีค่าเมตริกที่ใช้วัดสิ่งต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น Search Volume, SEO Difficulty (SD), Paid Difficulty, Cost per click (CPC) เหล่านี้ได้อย่างชัดเจนครบครันเพื่อรองรับการใช้งานที่จำเป็น

  • ราคามีความเหมาะสมกับการใช้งาน
    • แม้ Tools บางตัวจะใช้ได้ฟรี แต่เพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้นทำให้หลายครั้งเราต่างก็ต้องหา Tools ที่เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า (และต้องดีด้วย) ดังนั้นปัจจัยนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานต้องคิดให้ดีว่าเราจะเลือกลงทุนกับ Tools ได้ถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่ ข้อแนะนำก็คือ ให้คุณลองใช้หลาย ๆ ตัวเพื่อทดสอบจนกว่าจะเจอตัวที่ถูกใจที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าตัวไหนจะเป็น Tools ที่ใช่หากไม่ลองใช้ด้วยตัวเอง

  • ใช้งานง่าย ตอบสนองทั้ง UX และ UI
    • การใช้งานที่ง่าย ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกันที่ควรคำนึงถึง เพราะคุณคงไม่อยากใช้งานเครื่องมือที่ไม่เป็นระเบียบจนทำให้เกิดความหงุดหงิดตามมา ซึ่งในปัจจุบันมี Keyword Tools มากมายให้ได้เลือกใช้งาน จึงไม่แปลกที่คุณอาจหันไปสนใจ Tools ทางเลือก ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าในหลาย Tools ก็มีปัญหาเรื่อง UX/UI ส่วนหนึ่งจึงขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะถูกใจ Tools ไหนเป็นพิเศษที่ตอบโจทย์คุณได้ในเรื่องนี้

  • Tools ที่มีการ Update สม่ำเสมอ
    • เรื่องของการ Update Tools คือสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป ทั้งที่ความจริงแล้วเราต่างก็กำลังสู้กันแบบ Realtime คุณคงไม่อยากพลาดอะไรไปแน่ ๆ โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้คุณสามารถนำคู่แข่งได้หนึ่งก้าว หรืออย่างน้อยก็ไม่ล้าหลังพวกเขา

7 อันดับ Keyword Tools ยอดนิยมที่พลาดไม่ได้ในปี 2024

Keyword Tools 04



และแล้วก็มาถึงการแนะนำเครื่องมือวิเคราะห์ Keyword ยอดนิยมที่แม้ว่าแต่ละตัวจะมีรูปแบบการทำงานคล้ายคลึงกัน แต่บอกเลยว่ารายละเอียดและการใช้งานโดยเฉพาะด้าน UX (User Experience) นั้นมีความโดดเด่นที่ต่างกันอย่างแน่นอน โดยจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!

1.Ubersuggest

UberSuggest-logo

หนึ่งใน Tools ที่หลายคนรู้จักและนัก SEO ต่างให้การยอมรับ รองรับการทำงานร่วมกับ Google, YouTube และ Amazon ได้เป็นอย่างดี บริหารงานโดย Neil Patel นักการตลาดออนไลน์มือฉมังที่มอบความรู้ในการทำ SEO ให้กับผู้คนทั่วโลกโดย Tools ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็น “แบบฉบับที่ดี” สำหรับการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นและจัดได้ว่ามีการใช้งานที่ยอดเยี่ยมเพื่อตอบโจทย์การทำ SEO อย่างครบวงจรตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้

Features โดดเด่น

  • เน้นความง่ายในการใช้งานด้วย Tools ที่ใช้ครบได้ในหน้าเดียว
  • เครื่องมือมีความครอบคลุมในหลายเมตริกที่จำเป็น
  • สามารถหา Keyword เป็นภาษาไทย (และทำได้อย่างดีด้วย!)
  • มีแนะนำ Keywords Idea และ Content Idea ให้พร้อม
  • มีการ Update เครื่องมือใหม่อย่างสม่ำเสมอ เช่น Keyword visualization ให้ผู้ใช้งานเห็นภาพได้ชัดเจน
  • มีฟังก์ชันสำหรับการทำ SEO ที่ครบเครื่องพร้อม Overview ที่จะช่วยวางกลยุทธ์ได้ว่าควรใช้ Keywords ไปในทิศทางใดให้เกิดคุณภาพสูงสุด
  • มี Training ความรู้สำหรับมือใหม่ตั้งแต่ 0 ไปจนถึงมืออาชีพ พร้อมหลักสูตร Coaching ที่จะมีขึ้นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง


ราคา

  • สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 7 วัน
  • สมัครแบบ Individual สำหรับรายบุคคลหรือธุรกิจขนาดเล็ก ราคา $12 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Business สำหรับธุรกิจขนาดกลาง ราคา $20 ต่อเดือน
  • Enterprise / Agency เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่หรือหน่วยงานที่ดูแลมากกว่า8 เว็บไซต์ขึ้นไป ราคา $40 ต่อเดือน


………………………………………………….

2.Semrush

semrush logo

เครื่องมือการทำ SEO ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างน่าสนใจอีกตัวด้วย Features ที่มีมากถึง 40 ตัว ความน่ากลัวของ Tools ตัวนี้การนำไปใช้เพื่อการพัฒนา Content Online ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องของ Social Media Management, Content Marketing, Marketing Insights หรือแม้แต่ Campaign Management หากใครที่ชอบการแข่งขันบนสื่อ Social Media แล้วล่ะก็ Tools ตัวนี้จะช่วยคุณเจาะเมตริกสุดละเอียดที่จะล้วงข้อมูลคู่แข่งของคุณจนพรุน

Features โดดเด่น

  • เจาะข้อมูลของคุณและคู่แข่งได้อย่างละเอียด เพื่อเปรียบเทียบ Gap ของ Keyword ด้วย Competitive Research
  • สามารถหา Insights ของ Content Marketing เพื่อใช้ Keyword ในการทำงานได้ดี
  • Campaign Management หนึ่งใน Tools ที่จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ได้อย่างรัดกุมและเข้าถึงใจผู้บริโภคได้ตรงจุดที่สุด
  • สร้างรายงานฉบับ PDF ได้ไม่ว่าจะสร้างด้วยตัวเองหรือใช้ template


ราคา

  • สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 7 วัน
  • สมัครแบบ Pro สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ราคา $119.95 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Guru สำหรับธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ ราคา $229.95 ต่อเดือน


………………………………………………….

3.SEO PowerSuite

seo-powersuite-logo

หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ครอบคลุม Tools ตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สุดสำหรับการหา keywords ไม่แพ้ตัวอื่น ด้วยชุดเครื่องมือที่พร้อมจะปรับปรุง SEO ควบคู่กันไปด้วยทั้งงาน On-page และ Off-page โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ Mobile เรียกได้ว่าเป็นอีก Tools ที่เด่นเรื่อง One-stop SEO software ซึ่งกำลังเติบโตและได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน

Features โดดเด่น

  • มีโปรแกรมอัตโนมัติช่วย Tracking การทำ SEO หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ Keyword
  • Tools ช่วยหา Solutions ที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคเพื่อเสิร์ฟ Content ให้ถึงมือ
  • ฟังก์ชันสำหรับ Website audit ที่เพิ่มขึ้นมาหลายอย่าง เช่น การวัดค่า Core Web Vitals หรือการเก็บ Data จากพื้นที่เพื่อใช้ประเมิน Campaign
  • Cloud storage เก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 400 โปรเจกต์


ราคา

  • Free สามารถใช้งานสำหรับบุคคลหรือธุรกิจขนาดเล็ก ใช้ตรวจสอบเว็บไซต์เป็นครั้งคราว
  • สมัครแบบ Professional เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางที่เน้นการใช้งานบ่อย ค่าใช้จ่าย $ 299 ต่อปี
  • สมัครแบบ Enterprise เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพทุกอย่างในการใช้งานเหมาะกับองค์กรที่ต้องรับผิดชอบในหลาย ๆ เว็บไซต์ ด้วยราคา $499 ต่อปี


………………………………………………….

4.KWFinder

KWFinder-Logo

KWFinder เป็นเครื่องมือที่ออกแบบโดย Mangools คืออีกหนึ่ง Tools ที่ช่วยวิเคราะห์ความยาก-ง่าย ในการใช้ Keyword ในแข่งขัน ที่สำคัญยังรองรับภาษาไทยได้อีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าความเบาของตัวโปรแกรมที่ไม่มีอะไรซับซ้อนกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้มือใหม่ชอบ และที่สำคัญประสิทธิภาพที่ได้นั้นจัดได้ว่ามีการค้นหาได้ตรงกับ Insight ของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก

Features โดดเด่น

  • Interface ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งานและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถ่ายทอดเมตริกที่จำเป็นออกมาก่อนที่จะลงลึกเพื่อให้มองง่าย
  • ใช้งานได้หลายภาษาจากทั่วโลก
  • มี Options ปรับการค้นหาละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้ Keyword
  • ฟังก์ชันการเจาะภาพรวมเชิงลึกของ SERP และให้คำแนะนำในการปรับปรุง
  • สามารถดูประวัติ Volumes Keyword เพื่อการวิเคราะห์หรือทำนายได้อย่างละเอียดตามช่วงเวลาต่าง ๆ


ราคา

  • สมัครแบบ Entry เหมาะกับการทดลองเพื่อใช้งานระยะสั้น ในราคา $19.90 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Basic เหมาะกับฟรีแลนซ์และธุรกิจขนาดเล็ก ในราคา $29.90 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Premium เหมาะกับบริษัท Start-up หรือ Blogger ในราคา $44.90 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Agency เหมาะกับผู้รับผิดชอบหลายเว็บไซต์และใช้งานอย่างสม่ำเสมอบนธุรกิจ eCommerce ราคา $89.90 ต่อเดือน


………………………………………………….

5.Ahrefs

ahrefs-seo-logo

หนึ่งในเครื่องมือ keyword research ที่มาแรงที่สุดสำหรับ Content Creator ซึ่งมีการค้นหาคำที่กว้างขวางและหลากหลาย (คำประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียง) และอาศัยการเก็บข้อมูลแบบละเอียด เช่น การคลิกสตรีมเพื่อระบุเมตริกการคลิกที่ไม่ซ้ำกันในการนำไปทำ SEO ได้ลึกแบบสุด ๆ และแน่นอนว่าด้วยราคาที่สูงเมื่อเทียบกับ Tools อื่น ๆ ทำให้มีการใส่ลูกเล่นออกมาให้เราได้เห็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยหา Topic Idea หรือทำ Content Strategy จัดเป็นหนึ่งใน Tools ที่ทรงพลังและมีความแม่นยำอย่างมากในสำหรับ Analytics Keyword จัดเป็น Tools ในดวงใจของใครหลายคนที่ใช้แล้วต้องติดใจแน่นอน

Features โดดเด่น

  • หา keyword difficulty ที่บอกถึงความยากในการแข่งขัน
  • มีคำแนะนำสำหรับการหา keyword อื่น ๆ หรือคำใกล้เคียงต่อยอดได้มากกว่า 1000+ คำ
  • รองรับการใช้งานมากกว่า 171 ประเทศ
  • มีการวัดเมตริกการคลิกเพื่อใช้ปรับปรุง CTR ได้อย่างแม่นยำ
  • วิเคราะห์ keyword ไปพร้อมกับมองภาพรวมของ SERP เพื่อประเมินอย่างแม่นยำ


ราคา

  • สมัครแบบ Lite สำหรับธุรกิจและการทำงานขนาดเล็ก ในราคา $99
  • สมัครแบบ Standard สำหรับ SEO ฟรีแลนซ์และที่ปรึกษาด้านการตลาด ในราคา $199
  • สมัครแบบ Advanced สำหรับนักการตลาดที่ต้องการชุดอำนวยความสะดวกที่มากกว่า ต้องการข้อมูลในเชิงลึกสำหรับทำงานในทีมใหญ่ ในราคา $399
  • สมัครแบบ Enterprise สำหรับหน่วยงานและองค์กรขนาดใหญ่ ในราคา $999


………………………………………………….

6.Google Keyword Planner

google-keyword-planner-logo

เครื่องมือยอดนิยมที่สามารถช่วยทำการประเมิน Keywords เพื่อนำมาใช้ได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากมายที่ยอมรับประสิทธิภาพ โดยมีการออกแบบมาเพื่อเจาะจงให้ Content Creator สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดในการสร้างผลงาน พร้อมทั้งการรองรับด้านการทำ Google Ads ที่รีดประสิทธิภาพออกมาให้คุณสามารถทำ SEO ได้คุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่ง

Features โดดเด่น

  • มีฐานข้อมูลจาก Google โดยตรงทำให้การค้นหา Keywords นั้นมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือรองรับ
  • สามารถติดตาม Keywords ที่ต้องการได้แบบ Realtime ซึ่งมีการ Update เสมอ
  • รับรองการทำงานรวมกับโปรแกรมอื่นของ Google เช่น เมื่อคุณพบ Keywords ที่ต้องการแล้ว คุณสามารถเพิ่มลงในแผนการโฆษณาของคุณได้ผ่าน Google Ads บันทึกแผนของคุณเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคตหรือแชร์กับทีมธุรกิจของคุณผ่านโปรแกรมบน Google drive


ราคา

  • สามารถใช้ได้ฟรี โดยไม่เสียใช้จ่าย


………………………………………………….

7.Keyword Tool.io

logo Keyword Tool.io

เป็น Tools อีกหนึ่งตัวที่มีความทรงพลังและเป็นที่ยอมรับหลายบริษัททั่วโลก ทั้งยังมีการทำงานร่วมกันกับ Google, YouTube, Bing, Amazon, และ App Store ได้ดีทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Tools ตัวนี้จึงได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการหา Long-Tail Keyword ที่มีข้อมูลเชิงลึกมากมายให้คุณได้ใช้ประโยชน์

Features โดดเด่น

  • ค้นหา Keyword โดยใช้การเติมข้อความอัตโนมัติของ Google ได้ทำให้การค้นหากว้างขึ้น
  • เสริมการตลาดโซเชียลมีเดียด้วยการวิเคราะห์ Keyword ที่ทำงานร่วมกับ Instagram และ Twitter
  • สามารถบันทึกข้อมูลรายงานเป็นไฟล์ CSV ได้
  • UX ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายเพื่อผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ


ราคา

  • สามารถใช้ได้ฟรีโดยจำกัดที่ 750+ Long-Tail Keyword
  • สมัครแบบ Pro Basic เหมาะกับการใช้งานรายบุคคล ในราคา $69 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Pro Plus เหมาะกับการใช้งานสำหรับนักการตลาดที่วิเคราะห์แผนอย่างจริงจัง ในราคา $79 ต่อเดือน
  • สมัครแบบ Pro Basic เหมาะกับการใช้งานในบริษัทที่มีทีมงานจำนวนมาก ในราคา $159 ต่อเดือน


สรุป Keyword Tools ผู้ช่วยที่นัก SEO ขาดไม่ได้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Keyword Tools เปรียบเสมือนลมหายใจของนัก SEO การมี Tools ที่ดี จะช่วยให้การทำงานดีขึ้น เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้การเลือก Tools ที่ดีให้กับตัวเองจึงขึ้นอยู่กับว่าเราพึงพอใจกับการได้รับประสบการณ์แบบไหน ที่จะช่วยอำนวยให้เราสามารถสร้างผลงานได้ดีที่สุด

ที่สำคัญความสนุกของการใช้ Tools ก็คือการได้ทดลองใช้หลาย ๆ ตัวเพื่อสำรวจดูว่าตัวไหนมีรูปแบบการทำงานที่ต่างออกไป อีกทั้งเรายังสามารถนำ Tools มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้มากกว่าหนึ่งตัวด้วยซ้ำเพื่ออุดจุดอ่อนที่ Features ของอีกตัวไม่มี (หากคุณไม่กลัวเปลืองเงิน!)

สุดท้ายนี้ขอให้สนุกกับการใช้งานและหวังว่าคุณจะได้ Keyword ที่ดีเพื่อนำไปใช้ให้การทำ SEO ของคุณเติบโตได้มากกว่าเดิม

Search
Categories