Seed keyword เป็นแนวทางสำคัญในการเปิดโอกาสที่จะทำให้การทำ SEO ของคุณสามารถบรรลุได้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น โดยปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเริ่มทำ SEO ที่ดีย่อมเกิดจากการกำหนด Keyword ที่มีประสิทธิภาพ ที่เรียกได้ว่าเป็นคำหลักพื้นฐานอันสื่อถึงธุรกิจ, ผลิตภัณฑ์, หรือบริการของคุณ เป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนทำ SEO ไปจนถึงการสร้างสรรค์เนื้อหาและรายละเอียดต่าง ๆ ของ Content นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการสร้าง External link อีกด้วย ดังนั้นการใช้ “Seed key” ได้อย่างถูกต้อง จึงกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการทำ SEO ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาและสามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม
ความหมายของ “Seed keyword”
“Seed keyword” หรือ “คำหลักเริ่มต้น” เป็นคำที่สะท้อนถึงแนวคิดหลักหรือธีมหลักของเนื้อหาไปจนถึงผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่คุณต้องการประชาสัมพันธ์เพื่อหยิบมาใช้ในการทำ SEO โดยคำนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสืบค้นข้อมูลหรือนำไปขยายเพื่อรองรับความหลากหลายของการค้นหา และมุ่งเน้นไปที่การทำให้เนื้อหา (หรือเว็บไซต์) ของคุณ ไปปรากฏอยู่ในความต้องการของผู้ใช้งานบนเครื่องมือ Search engine เช่น Google โดยเป็นคำที่มีความหมายกว้างมาก ๆ ซึ่งหากสำรวจดูคุณจะเห็นได้ว่ามีปริมาณการใช้คำ ๆ นี้สูงมาก
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณเป็นผู้ประกอบการขายสินค้าในหมวด “กาแฟ” ในกรณีนี้ “กาแฟ” ก็จะเป็น “Seed keyword” หรือคำหลักเริ่มต้นสำหรับคุณ แต่เมื่อเราพิจารณาอย่างละเอียด รูปแบบการค้าในหมวดกาแฟมีหลากหลายประเภทและรูปแบบ เช่น “กาแฟอาราบิก้า” “กาแฟลาเต้” “กาแฟร้อน” หรือ “กาแฟเย็น” คำหลักเหล่านี้จะจัดเป็น “Long-tail keywords” ที่มีความเฉพาะเจาะจงขึ้นมาจาก “Seed key” ที่มีเพียงคำว่า “กาแฟ” เปล่า ๆ หรืออาจมีการต่อท้ายคำสร้อยเพิ่มเติมเช่นประโยคคำถามเป็นต้น
ที่มา : หน้าค้นหาของ Google “กาแฟ”
ดังนั้น “Seed key” จึงเป็นพื้นฐานหรือแนวทางในการกำหนดเส้นทางสำหรับแคมเปญ SEO และการสร้างเนื้อหาอื่น ทำให้คุณสามารถสร้างความเข้าใจที่แท้จริงกับตลาดเป้าหมายของคุณ และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสเด่นขึ้นในผลการค้นหาและเพิ่มโอกาสที่จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน เมื่อพวกเขาค้นหาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ Keyword นั้น ๆ
ปัจจัยการเลือก Seed keyword ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
เรียกได้ว่าการกำหนด Seed Keyword ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องทุ่มเทและใช้ความละเอียดสูงเพื่อที่จะตั้งเป้าในการกำหนดจุดหมายของธุรกิจ โดยก่อนอื่นเราสามารถดูภาพรวมของการใช้ Keyword ผ่านมุมมองได้ดังนี้
- ตัวธุรกิจ: ก่อนอื่นควรเข้าใจเป้าหมายของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณอย่างละเอียด รวมถึงเข้าใจกลุ่มเป้าหมายขององค์กรด้วยว่ามีการโฟกัสไปที่อะไร หากคุณเปิดร้านขายเลื่อยไฟฟ้า คุณอาจนำธุรกิจตัวเองนิยามเข้าไปอยู่ในหมวด อุปกรณ์ช่าง,เลื่อยไฟฟ้า, ก็ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้การกำหนด Keyword ที่ดีจะต้องรู้ว่าธุรกิจของคุณอยู่ในหมวดใดก่อน
- การศึกษาคู่แข่ง: ศึกษาว่าคู่แข่งของคุณใช้คำอะไร ในการจัดการหมวดหมู่และพยายามเรียนรู้จากแนวทางของพวกเขา บางครั้งคุณอาจเจอคำที่ใกล้เคียงหรือคำที่ผู้บริโภคมักใช้กันเฉพาะกลุ่ม ซึ่งการดูตัวอย่างแนวทางจากคู่แข่งจะทำให้คุณสามารถต่อยอดไปได้อีก
- การใช้ Tools: เช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest, หรือ SEMrush เพื่อค้นหาคำที่มีศักยภาพและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณจะช่วยให้คุณวัดผลได้อย่างแม่นยำ บ่อยครั้งที่ธุรกิจสักตัวจะมีการใช้ Keyword ที่มากกว่าหนึ่งขึ้นไป การใช้ Tools เหล่านี้จะบอกคุณได้ว่าคำใดควรใช้ คำใดควรหลีกเลี่ยง ซึ่งจะบอกภาพรวมทั้งหมดว่าในแต่ล่ะคำที่คุณเลือก จะสามารถแข่งขันได้หรือไม่ด้วยนั่นเอง
หลังจากเลือก “Seed key” แล้ว สิ่งต่อมาคือเราควรนำคำเหล่านั้นมาใช้สร้างเนื้อหาและประเมินผลว่าคำนั้น สามารถนำเว็บไซต์ของคุณมาติดอันดับในเครื่องมือค้นหาอย่างไร และสามารถปรับปรุงและแก้ไขได้ตามที่จำเป็น โดยเมื่อผ่านขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะได้ “Seed key” ที่เข้ากับธุรกิจของคุณและมีโอกาสในการเพิ่มความมองเห็นและการแปลงผลลัพธ์ของเว็บไซต์ของคุณในที่สุด
การนำ “Seed keyword” ไปใช้ประโยชน์
มาถึงจุดนี้หลายคนคงรู้ดีว่า “Seed key” มีบทบาทสำคัญมากในการกำหนดทิศทางของการสร้างเนื้อหา และการทำ SEO โดยเหตุผลที่ทำให้เหล่านักพัฒนาหรือนักสร้างเนื้อหาพยายามจะใช้ Keyword เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ด้วยความสำคัญดังต่อไปนี้
1. จุดเริ่มต้นของการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ
- แนวทางในการสร้างเนื้อหา: “Seed keyword” เป็นจุดเริ่มต้นในการกำหนดทิศทางหรือกรอบความคิดในการสร้างเนื้อหา เช่น ถ้า “Seed key” ของคุณคือ “นาฬิกาแฟชั่น” คุณอาจจะสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกนาฬิกาที่เหมาะสมกับสไตล์แต่ละประเภท ซึ่ง Content หรือเนื้อหาต่าง ๆ จะออกมาหลังจากที่คุณได้กำหนด Key เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
- เน้นคุณภาพ: การทราบถึง “Keyword” ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ จะช่วยให้คุณสามารถศึกษาและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ได้เพราะ Keyword จะมีความเกี่ยวพันกับเนื้อหาอย่างใกล้ชิด หน้าที่ของ Creator ในการสร้างสรรค์เนื้อหาคือ จะต้องลงลึกมากพอเพื่อจะนำเสนอเนื้อหาได้ตามกลยุทธ์
2. ต่อยอดการสร้าง Keyword ใหม่
- ค้นหาคำที่เป็นที่นิยม: “Seed keyword” เราสามารถใช้ Tools วิเคราะห์ Keyword เพื่อหาคำหลักที่เกี่ยวข้องและนิยมในการค้นหาได้ เช่น จาก Seed key “กาแฟ” อาจนำไปสู่คำหลักย่อยเช่น “คอฟฟี่อาราบิก้า” หรือ “วิธีปั่นคอฟฟี่” โดยการใช้ Tools ที่มีประสิทธิภาพจะค้นหาได้ว่าคำที่คุณใช้ มีความเกี่ยวข้องมากแค่ไหนในการใช้ต่อยอดไปยังคำอื่นที่มีความหมายเดียวกันหรือใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เขียนเนื้อหาสามารถขยาย Keyword ต่อไปได้อีก
- สร้างเนื้อหาที่หลากหลาย: การมีคำหลักที่หลากหลายจะช่วยให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงความต้องการหลาย ๆ ด้านของผู้ใช้โดยในแง่การสร้างเนื้อหา มันคือการแตกกิ่งออกเรื่อย ๆ จากคำที่เชื่อมโยงอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เพื่อนำพาให้คุณไปสู่เรื่องราวใหม่ที่มีโอกาสต่อยอดให้บอกเล่าได้มากกว่าเดิม
3. ช่วยปรับปรุงแผนการตลาด
- รู้จักกลุ่มเป้าหมาย: “Seed key” จะช่วยให้คุณสามารถทราบถึงความสนใจ หรือความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้การจัดทำแผนการตลาดออนไลน์ที่ตรงกับเป้าหมายของคุณมากขึ้น การกำหนด Keyword ที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนได้ลึกซึ้งกว่าเดิมในเรื่องของการตลาดเพราะคุณจะรู้ได้ถึงบริบทของการติดตามกลุ่มลูกค้าทันที ยกตัวอย่าง “กาแฟ” ที่ผ่านมา เราจะศึกษาได้เลยว่าไลฟ์สไตล์ของคนที่ดื่มกาแฟเป็นแบบไหน แบ่งออกได้อย่างไร ซึ่งจะช่วยให้คุณนำไปต่อยอดการวางแผนธุรกิจได้อีกแง่หนึ่ง
- เพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณา: หากคุณทราบคำหลักที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ การจัดทำโฆษณาที่มีเนื้อหาและข้อความที่สอดคล้องกับคำหลักเหล่านั้น จะทำให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะรู้ Insights ที่ชัดเจนว่าคุณกำลังเสนอเกี่ยวกับอะไร และมักจะเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการใช้ตั้งค่าเพื่อออกแบบโฆษณาแบบ PPC เช่น Google Ads ได้ด้วย
- วัดการแข่งขันในตลาด: การเลือกใช้ Keyword เป็นสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้เปรียบเทียบผลลัพธ์ทางการตลาดได้ดีทีเดียว บอกได้เลยว่าการสำรวจ Keyword จากคู่แข่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ Seed keyword จะบอกคุณได้ดีในเรื่องนี้
4. เพิ่มโอกาสแสดงผลในการค้นหา
- เพิ่ม Ranking ใน Search engine: กระตุ้นยอดการปรากฏในการเลือกคำหลักที่มีความเกี่ยวข้องและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ จะเพิ่มโอกาสในการแสดงผลบนเครื่องมือค้นหาบน Search engine ได้เป็นอย่างดี
- ปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO: “Seed keyword” สามารถนำไปใช้เป็นคำหลักในการเพิ่มขึ้น Meta tags, URL structure, และเนื้อหา นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการสร้าง Backlinks หรือการเชื่อมโยงภายนอกได้
เคล็ดลับและข้อควรระวังในการใช้ Seed keyword
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรทราบเคล็ดลับและข้อควรระวังการใช้ Seed key ดังนี้
- อย่าเลือก Keyword เฉพาะเกินไป: การเลือก Seed key ที่เจาะจงเกินไปอาจจะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการมองเห็นภาพรวมของตลาด เพราะนี่ไม่ใช่ long-tail keywords ที่มีคำยาว ๆ แต่คุณต้องจัดการเลือกเพียงแค่คำสั้น ๆ ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่คุณทำหรือธุรกิจของคุณให้ชัดเจนด้วยภาพรวมกว้าง ๆ เข้าไว้
- เน้นความเกี่ยวข้อง: การเลือก Seed key ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสินค้าของคุณ จะทำให้การทำ SEO ไม่มีประสิทธิภาพ นี่คือข้อสำคัญที่คุณต้องจำให้ดีว่าแม้การใช้ Seed key จะดูกว้างแค่ไหน แต่ก็ต้องเกี่ยวข้องกับคำดังกล่าวด้วยเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ Seed keyword ที่มีการแข่งขันสูง: คำที่มีความแข่งขันสูงอาจทำให้คุณต้องใช้เวลาและงบประมาณมากในการประสบความสำเร็จในการทำ SEO ทางออกก็คือ พยายามเลือกคำที่อยู่ในหมวดเดียวกัน แต่มีการแข่งขันไม่สูงแล้วพยายามเชื่อมโยง Keyword เหล่านั้นให้มากขึ้นก็จะทำให้คุณสามารถสู้กับตลาดใหญ่ได้ หากทำกลยุทธ์นี้ไปพร้อมกับการปล่อย Content ที่มีคุณภาพออกไป
ข้อสรุปความสำคัญของการเลือก “Seed keyword” ที่เหมาะสม
การเลือก “Seed keyword” ที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการทำ SEO และการตลาดดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อเราลองสังเกตดูดี ๆ มันก็แทบจะเป็นรากฐานในการทำ SEO กันเลยทีเดียว และสิ่งที่เราอยากทำให้ลึกซึ้งลงไปอีกสักหน่อยก็คือ การหา Keyword “ที่ใช่” อาจไม่จำเป็นต้องมี keyword เดียวเสมอไป สิ่งสำคัญก็คือ คุณเลือกที่จะปรับปรุงหรือตรวจสอบการใช้คำเหล่านี้และวัดผลจากมันมากแค่ไหน เพื่อที่จะทำให้รู้ว่าประสิทธิภาพดังกล่าวจะเป็นไปได้ตามที่กำหนดต่างหาก ที่จะเป็นจุดสำคัญในการใช้ Keyword ได้อย่างยอดเยี่ยม
เปรียบเสมือนเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรงเพื่อที่จะได้ต้นไม้ที่สง่างาม ดังนั้นการเลือก Keyword ให้กับธุรกิจเองก็ไม่ต่างกัน ที่การใส่ใจเลือก Keyword จะเป็นพื้นฐานในการทำ SEO ที่ดีได้ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง